เดี๋ยวเล่าให้ฟัง : สรุปหนังสือ คิดแบบยิวทำแบบญี่ปุ่น

            หนังสือเรื่องคิดแบบยิว ทำแบบญี่ปุ่น เป็นผลงานเขียนของฮอนดะ เคน ที่ถ่ายทอดเรื่องราวเคล็ดลับความสำเร็จของชายชราชาวยิว ที่ประกอบธุรกิจเพชรจนสำเร็จนามว่าเกลเลอร์ ผ่านบทสนทนา โดยหนังสือเล่มนี้แบ่งเป็น 17 บท ตามชื่อเคล็ดลับของคุณ"เกลเลอร์" ซึ่งขอสรุปคร่าวๆ ดังนี้

            เคล็ดลับที่ 1 รู้จักกลไกสังคม ค่าตอบแทนที่ได้ขึ้นอยู่กับปริมาณและคุณภาพของผลงาน เมื่อเราทำงานที่ชอบเราจะทุ่มเทกายใจให้กับมันได้ สุดท้ายผลงานที่ออกมาจะมีคุณภาพเสมอ

            ในโลกนี้จะมีคน 2 ประเภท คือคนที่มีอิสรภาพ กับคนที่ไร้อิสรภาพ เช่น ข้าราชการ หรือแม้แต่เจ้าของธุรกิจที่ัต้องทำงานเอง แต่ถ้าคุณมีระบบรองรับ หรือบุคลากรที่สามารถดำเนินงานแทนคุณได้ คุณก็สามารถย้ายจากฝั่งไร้อิสรภาพมาเป็นฝั่งอิสรภาพได้ ทั้งนี้มันขึ้นอยู่กับจุดยืนของเราว่าจะอยู่ฝั่งไหน

            เคล็ดลับที่ 2 รู้จักตนเองและทำในสิ่งที่ชอบ การได้ทำสิ่งที่ชอบจะทำให้คุณสามารถทุ่มเทกายใจไปกับสิ่งที่คุณเลือกได้ แม้จะไม่ได้เงินหรือเสียงชื่นชมจากตนรอบข้าง แต่มันก็ยังทำให้เราสนุกได้ แต่กลับกันถ้าคุณทำในสิ่งที่ไม่ชอบต่อให้ได้เงินมามาก อย่างดีคุณก็มีความสุขแค่พอประมาณ แต่ถ้ามันล้มเหลว มันคงเป็นชีวิตที่เลวร้ายที่สุด ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหาสิ่งที่ชอบ คือ ไม่ว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่ จงรักในสิ่งนั้น ถ้ารักและทุ่มเทให้กับมันได้ โอกาสต่างๆก็จะวิ่งเข้ามาหาคุณเอง  

            เคล็ดลับที่ 3 เพิ่มพลังสัญชาตญาณ ฝึกการมองคนและสิ่งต่างๆ ให้แตกฉาน เพื่อคาดการณ์กระแสสังคมว่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

            เคล็ดลับที่ 4 ตระหนักถึงพลังความคิดและอารมณ์ พยายามหาว่าตัวเองคิด และรู้สึกอย่างไร อาจเขียนสิ่งที่คิดลงกระดาษแล้วพิจารณาว่าสิ่งที่เราคิดมีประโยชน์หรือไม่ และสุดท้ายเราจะค้นพบสิ่งที่เราต้องการจริงๆ อย่างถ่องแท้ และจดจ่อกับมัน ชีวิตคนเราถูกสร้างขึ้นด้วยความคิด และถูกบงการด้วยอารมณ์ บางช่วงในชีวิตอาจรู้สึกเหมือนถูกทิ้งไว้บนเกาะร้าง จนเรารู้สึกรับมือไม่ถูก เราต้องแข็งแกร่งและหนักแน่นพอที่จะรับมือมันได้ อย่าปล่อยให้ความคิดและอารมณ์มาบ่งการ ไม่ว่าจะความกลัว หรือสิ่งที่เราคิดไปเองว่ามันจะเกิด ทั้งๆที่มันยังไม่เกิด

            เคล็ดลับที่ 5 จงเป็นยอดนักขาย มีเคล็ดลับสั้นๆ ในการขายคือ
                        1) มีความมั่นใจว่าขายได้
                        2) เป็นคนที่วางใจได้
                        3) พูดให้เห็นภาพ และ สร้างอารมณ์ร่วม
                        4) รู้เรื่องตัวสินค้าและบริการที่จะขายอย่างทะลุปรุโปร่ง
                        5) มีเทคนิคปิดการขาย

            เคล็ดลับที่ 6 เป็นอัจฉริยะด้านการพูด ซึ่งอารมณ์คือหัวใจของการสื่อสาร จะช่วยให้ผู้คนคล้อยตาม หรือรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปได้ ที่สำคัญต้องมีความจริงใจอยู่ในประโยคที่พูดด้วย

            เคล็ดลับที่ 7 รู้จักการใช้เครือข่ายคนรู้จักให้เกิดประโยชน์ เพราะส่วนใหญ่แล้วโอกาส ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และเงินมักเป็นสิ่งที่คนอื่นหยิบยื่นให้แก่เรา สิ่งที่สำคัญในการคบหาผู้อื่น คือ การเอาใจเขามาใส่ใจเรา

            เคล็ดลับที่ 8 เรียนรู้กฏของเงิน สิ่งที่สำคัญมีอยู่ 2 อย่าง คือ ความรู้เรื่องเงิน (วิธีหาเงิน การใช้จ่าย ลงทุน และออม) และทัศนคติที่ถูกต้องเกี่ยวกับเงิน เริ่มจากการปรับทัศนคติให้ดีต่อตัวเงินก่อน ไม่ใช่คิดว่าเงินเป็นสิ่งที่ห้ามใช้ ไม่ดี หรือก่อให้เกิดปัญหา.

            เคล็ดลับที่ 9 มีธุรกิจเป็นของตัวเอง คนทำงานที่บริษัทได้รับเงินเดือนน้อย กว่าจะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่สบายก็ต้องรอจนเกษียณ ดังนั้นการมีธุรกิจเป็นของตัวเอง จึงเป็นคำตอบที่ดีข้อหนึ่ง ซึ่งสิ่งสำคัญคือการหาสินค้าหรือบริการที่มีคุณค่าพอที่ผู้คนจะยอมจ่ายเงินซื้อ ซึ่งคุณเกลลเลอร์ได้บอกถึงกฏ 5 ข้อที่จะช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จนั้นคือ
                        1) ค้นหาสิ่งที่ชอบ
                        2) ศึกษาทุกเรื่องที่จำเป็นต่อความสำเร็จในธุรกิจที่ทำ
                        3) เริ่มจากเล็ก อย่ารีบขยาย เพราะอาจทำให้เกิดข้อผิดพลาดตามมาได้
                        4) สร้างวงจรที่ทำกำไร
                        5 สร้างระบบที่เดินต่อไปได้แม้ไม่มีเรา

            เคล็ดลับที่ 10  ฝึกใช้ตะเกียงวิเศษของอลาดินให้ชำนาญ ในที่นี้คือ ความกล้าที่จะฝัน ลองวาดภาพในหัวว่าในอีก 10 ปีข้างหน้าเราจะเป็นยังไง ลงรายละเอียดของเป้าหมายพร้อมวิธีการให้ชัดเจน กำหนดรางวัลและบทลงโทษเพื่อช่วยให้ลงมือทำได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือการลงมือทำ

            เคล็ดลับที่ 11 ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น สิ่งต่างๆ จะสำเร็จได้ก็เพราะได้รับแรงสนับสนุนจากผู้คนมากมาย เช่น ร้านอาหารที่มีลูกค้ามากมาย เขาประสบความสำเร็จได้ก็เพราะมีลูกค้า แล้วอย่าลืมรู้สึกขอบคุณพวกเขาที่ทำให้เราประสบความสำเร็จ คนที่คิดว่าฉันทำสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว จะค่อยๆ กลายเป็นคนหยิ่งยโส คนรอบข้างก็จะเริ่มตีตัวออกห่าง เวลามีปัญหาอะไรก็จะไม่มีใครอยากช่วยอีกต่อไป

             เคล็ดลับที่ 12 เข้าใจคุณค่าของการมีคู่ชีวิต คนเราจะสัมผัสความสุขจริงๆ ก็ต่อเมื่อรู้สึกผูกพันกับใครสักคน เคล็ดลับ 5 ข้อที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จในชีวิตคู่ คือ
                        1) เมื่อมีปัญหาให้พูดคุยและ แก้ปัญหาทันที
                        2) ต้องเห็นพ้องต้องกัน 100% ก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องสำคัญๆ
                        3) รู้สึกขอบคุณกันและกันอยู่เสมอ
                        4) รับผิดชอบต่อความสุขของตัวเอง
                        5) ต้องมีชะตาชีวิตร่วมกัน

            เคล็ดลับที่ 13 สร้างจิตสำนึกเศรษฐี เป็นการวาดภาพของตัวเองในใจ ยิ่งดูดีมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งดึงดูดความสุข ความสำเร็จ และความมั่งคั่งเข้ามาได้มากเท่านั้น ที่สำคัญต้องลงมือทำได้ เทคนิคคือ การวาดภาพและเขียนมันลงไปในกระดาษ

            เคล็ดลับที่ 14 กล้าตัดสินใจและลงมือทำ ในการสร้างนิสัยการตัดสินใจที่ดีมีอยู่ด้วยกัน 5 ข้อ ดังนี้

                        1) ตัดสินใจทุกเรื่องอย่างแน่วแน่
                        2) จัดลำดับสิ่งสำคัญในชีวิตให้ชัดเจน
                        3) เวลาตัดสินใจไม่ได้ให้รอจนกว่าจะหาข้อสรุปให้กับตัวเองได้
                        4) เชื่อว่าการตัดสินใจไม่มีคำว่าล้มเหลว
                        5) เมื่อตัดสินใจไปแล้วต้องเดินหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว

            เคล็ดลับที่ 15 รู้จักวิธีรับมือกับความล้มเหลว ความล้มเหลวจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อเราล้มเลิก ดังนั้นเวลาที่ทำอะไรแล้วผลลัพธ์ไม่เป็นดังหวัง มันเป็นการพิสูจน์ว่าวิธีนี้ใช้ไม่ได้เท่านั้น

            เคล็ดลับที่ 16 มีความฝัน เพราะความฝันมีพลังกระตุ้นให้คนเราลงมือทำเรื่องต่างๆ

            เคล็ดลับที่ 17 ยอมรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ไม่ว่าจะดีหรือจะร้ายก็ขึ้นกับว่าเรามองมันยังไง

            หนังสือเล่มนี้ถือเป็นเล่มหนึ่งที่น่าสนใจ ทั้งนี้เคล็ดลับทั้งหมดเป็นเพียงแนวคิดหนึ่งเท่านั้น ทุกคนสามารถลองปรับใช้ให้เข้ากับแต่ละบุคคลได้ สรุปหนังสือ คิดแบบยิวทำแบบญี่ปุ่น เป็นแค่การย่อเนื้อหา สรุป หรือนำประโยคบางประโยคจากทางหนังสือมาเขียนเท่านั้น ในหนังสือยังมีเนื้อหาให้ผู้อ่านได้อ่าน และทำความเข้าใจอีกเยอะ รวมถึงการยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นด้วย ดังนั้นถ้าใครมีเวลาว่างแนะนำให้ลองหามาอ่านกันนะคะ

 

ความคิดเห็น